PlasmaBoost ฟื้นฟูผิวสวย หน้าใส ด้วย Growth Factor จากเลือดตัวเอง

PlasmaBoost คือ นำเลือดของคนไข้มาใช้แก้ปัญหาทางด้านผิวพรรณความงาม โดยกระบวนการปั่นแยกเกล็ดเลือดที่สมบูรณ์ในเครื่อง Centrifuge ในความถี่ที่เหมาะสม จะได้เม็ดเลือดขาว และ เม็ดเลือดแดง แยกเกร็ดเลือดออกมาเป็นชั้น โดยเลือกชั้นที่เกล็ดเลือดเยอะที่สุดมาใช้ เราเรียกชั้นเกล็ดเลือดนี้ว่า  Platelet-Rich Plasma  เนื่องจาก เกล็ดเลือดที่ได้จากการปั่นนั้นจะหลั่งสารที่เรียกว่า โกรทแฟคเตอร์  (Growth Factor) จะเป็นสารอาหารของ Stem Cell ที่จะเร่งการเจริญเติบโต ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์กระตุ้นให้เกิดการเติบโตเร็วกว่าปกติ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยและผิวดูกระจ่างใสขึ้น

โกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor ) ดีต่อผิวยังไง ?

Growth Factor คืออาหารของเซลล์ ทุกครั้งที่ Stem Cell เกิดการ แบ่งเซลล์ มันจะคลายสารทางชีวะเคมีที่เป็นประโยชน์ออกมาประมาณ 200 กว่าชนิด ซึ่ง เรียกว่า "Growth Factors" สามารถกระตุ้นเซลล์ให้มีการเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนได้ เป็นสารที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ของสิ่งมีชีวิต โกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) เป็นกลุ่มโปรตีนที่ทำหน้าที่อย่างเจาะจง เช่นลดการระคายเคืองหรืออาการ แพ้ต่างๆ, กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดและหลอดเลือดใหม่ในร่างกายและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน (Collagen) และ อีลาสติน (Elastin) ที่ช่วยในเรื่องความตึงกระชับของผิว 

โกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) สามารถเพื่มประสิทธิภาพในการรักษาและการชะลอความเสื่อม ของผิวหนัง ฟื้นฟูเซลล์และรักษาบาดแผลได้ ทำให้เกิดการสร้างหลอดเลือดไปเลี้ยงผิว การสร้างเส้นใยคอลลาเจนและการสร้างเซลล์ผิวใหม่  ทำให้ผิวอ่อนเยาว์

ขั้นตอนการทำ 

• เจาะเลือดจากต้นแขนประมาณ 5-10 cc
• นำเลือดเข้าสู่กระบวนการปั่นแยกเม็ดเลือดออกจากพลาสม่า (Growth Factor) ในเครื่องปั่น (Centrifuge)
• แยก (Growth Factor) ที่ส่วนบนที่สมบูรณ์ที่สุดออกจากเม็ดเลือด
• นำ Growth Factor ที่ได้ฉีด เข้า ใบหน้า หรือบริเวณที่ต้องการให้มีการฟื้นฟูผิว

การดูแลหลังทำ Plasmaboost

• ประคบเย็น หรือทานยาแก้ปวดได้หากมีอาการ
• ควรหลีกเหลี่ยงการทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA หรือสาร Whitening อื่นๆ 
• หลีกเลี่ยงการล้างหน้าภายใน 4-5 ชั่วโมงแรกของการรักษา
• หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้าหรือถูกความร้อน อบไอน้ำ ซาวน่าหรือแสงแดด
• ทาครีมบำรุงผิวหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ได้ตามปกติ 
• ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และ แสงแดดจัดเป็นเวลา 3 วัน

ถาม-ตอบ

1. การทำ Plasmaboost ต้องทำบ่อยแค่ไหนถึงเห็นผล
ตอบ ควรฉีดซ้ำเดือนละ1ครั้ง เพื่อให้ผิวหน้าแข็งแรง โดยฉีดต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน แล้วพัก 3 เดือนแล้วจึงค่อยกลับมาฉีดใหม่ เพื่อคงสภาพให้ผิวหนังของเรามีการลำเลียงออกซิเจนที่ดีซึ่งส่งผลให้ใบหน้าของเราสดใสเปล่งปลั่ง อ่อนวัยอยู่เสมอ

2. หลังทำเสร็จเห็นผลเลยหรือไม่
ตอบ โดยปกติจะเห็นผลลัพธ์หลังการทำไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ กระตุ้นซ้ำ อีก 1-2 ครั้ง  ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นชัดเมื่อใช่เวลาไป 2-3 เดือน เนื่องจากเกิดการสร้าง Collagen ใต้ผิวหนัง การเห็นผลลัพธ์ก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยปกติการทำ 2-3 ครั้งจะอยู่ได้นาน 1-2 ปี

3. การทำ Plasmaboost สามารถทำให้ฝ้าจางลงได้หรือไม่
ตอบ เนื่องจาก Plasmaboost อุดมไปด้วยสารที่ช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวหนัง จึงสามารถช่วยให้ผิวกลับมาสุขภาพดี ทำให้สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น และช่วยทำให้ฝ้าแลดูจางลงได้